#air spring

Air spring หรือ ถุงลม ยังมีชื่อเรียกอื่นอีก เช่น Air bellow และ หมอนลม เป็นต้น เป็นอุปกรณ์สำหรับแยกแรงสั่นสะเทือนจากต้นกำเนิดแรงสั่นไปสู่สิ่งต่างๆ มีใช้ทั้งในงานอุตสาหกรรมเพื่อแยกแรงสั่นที่เกิดขึ้นจากปั๊มลม มอเตอร์ หรือเครื่องจักรต่างๆ ไม่ให้ส่งผลไปถึงผู้ใช้งาน เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ใกล้เคียง อาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน/เสียหายของอุปกรณ์/เครื่องจักรได้ และใช้ในยานยนต์ (จะเรียกว่า ถุงลม) เพื่อลดแรงสั่นที่เกิดขึ้นกับตัวรถและผู้โดยสาร

ในที่นี้จะขอพูดถึง Air spring ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วเรามีอุปกรณ์แยกแรงสั่นที่นิยมใช้กันมาก คือ คอยด์สปริง แล้วทำไมเราถึงต้องใช้ Air spring? Air spring มีข้อดีอย่างไร?

ข้อดีของ Air Spring

• สามารถแยกแรงสั่นที่มีความช่วงความถี่สูงมากจนถึงต่ำสุดที่ 1 Hz ได้

• สามารถแยกแรงสั่นได้หลายค่า ขึ้นอยู่กับความดันที่จ่ายให้กับ Air spring

• สามารถให้ความสูงที่แม่นยำและคงที่มากกว่าคอยด์สปริง ที่เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้วจะเกิดการล้าของสปริงขึ้น ทำให้ไม่สามารถกลับไปอยู่ที่ตำแหน่งเดิมได้

• ที่ความสามารถในการแยกแรงสั่นที่เท่ากัน Air spring ใช้พื้นที่ในการติดตั้งต่ำกว่า

• ไม่มีเสียงดังเกิดขึ้นเมื่อใช้งาน ต่างจากคอยด์สปริงที่มีเสียงดังเนื่องจากกระทบกันเองของตัวคอยด์สปริง

• ที่สำคัญคือ Air spring มีประสิทธิภาพในการแยกแรงสั่นได้สูงกว่าคอยด์สปริงมาก

โครงสร้างของ Air Spring

แบ่งเป็น 3 ชั้นด้วยกัน โดยแยกเป็นชั้นนอก ชั้นกลาง (2 ชั้น) และชั้นใน

• ชั้นนอก เป็นส่วนที่สัมผัสกับอากาศ และพื้นผิวต่างๆ

• ชั้นกลาง ลักษณะเป็นยางเสริมเส้นใย วางในแนวขวางกัน เพื่อเสริมความแข็งแรงของตัว Air spring เวลาใช้งาน

• ชั้นใน เป็นส่วนที่สัมผัสกับลมที่จ่ายเข้าไป

ยางแต่ละชั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน เช่น ความดัน และ/หรือ อุณหภูมิ เป็นต้น